วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2550

สวัสดีปีใหม่ 2551

ยิ้มรับปีใหม่อย่างสดชื่น
ให้ทุกวันทุกคืนช่างสุขสันต์
ต้อนรับปีใหม่ไปพร้อมกัน
ขออวยพรให้เธอนั้น...ได้ดั่งใจ

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2550

พ่อแห่งแผ่นดิน

เหล่าประชา คารวะ สดุดี แผ่นดินนี้ มีสุข ด้วยองค์ พระทรงชัย

บรรดาชาติชน ชื่นชม สมใจ ถวายบังคม เทิดไท้ ภูมิพลมหาราชา

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2550

มองโลกในแง่ดี (ตอน 2)

แหม ! เขียนเป็นนิยายเลยนะ
มีตอน 1 ตอน 2 ด้วย
อย่างนี้ก็ต้องมีพระเอกนางเอกด้วยน่ะซี
อย่างนี้ดีไหม...ให้คนที่กำลังมองโลกในแง่ดี
หรือคนที่อยากมองโลกในแง่ดี
เป็นพระเอกหรือนางเอกก็แล้วกัน
ชีวิตลิขิตเอง (เพลงของเบิร์ด)

คราวก่อนเขียนว่าถ้าเป็นคนมองโลกในแง่ดี
จะเป็นประโยชน์ต่อตัวคนนั้นเอง
เพราะจะเป็นคนสุขภาพจิตดี
จิตใจสดชื่น...ไม่ห่อเหี่ยว
ชีวิตก็จะมีความสุขกว่าคนที่มองโลกไนแง่ร้าย
อยากรู้รายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับการมองโลกในแง่ดี
สามารถเข้าไปอ่านได้ในเรื่อง "มองโลกในแง่ดี......ดีกว่าที่คิด "
เขียนโดย อาจารย์ จรุงกุล บูรพวงศ์ ที่เว็บ
http://www.psy.chula.ac.th/sarajarungkul.htm

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2550

มองโลกในแง่ดี

ไม่ได้เข้ามาเขียนที่บล็อกนี้...เป็นเวลา 1 อาทิตย์พอดิบพอดี
ไม่ได้หายไปไหน...ชอบไปอ่านและศึกษาที่บล็อกคนอื่นมากกว่า
สรุปกับตัวเองว่าคงจะเป็นคนชอบอ่าน...มากกว่าชอบเขียน
เพราะอ่านง่ายกว่าเขียน...เยอะเลย
แล้วได้รับความรู้จากคนอื่น...อีกมากมายด้วย
แต่ไหน ๆ ก็สร้างบล็อกขึ้นมาแล้ว...ต้องมีความรับผิดชอบหน่อย
เขียนเต็ม ๆ ไว้...ดีกว่าเวลาใครเปิดเข้ามามีแต่คำว่า
" ไม่มีบทความที่ตรงกับคำค้นหาของคุณ "

วันนี้จะมาเล่าเรื่อง " มองโลกในแง่ดี "
ที่บอกในข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับฉัน...ว่าเป็นคนมองโลกในแง่ดีน่ะ
มีที่มาที่ไป...ไม่ได้พูดเอาเองนะ
เนื่องจากได้เคยตอบปัญหา...เกี่ยวกับจิตวิทยา
แล้วเขาสรุปว่า...เราเป็นคนที่มีจุดแข็ง 5 ประการ
เท่ากับที่สรุปให้คนอื่นเหมือนกัน...เพียงแต่ว่าแต่ละคนมีจุดแข็งต่างกัน
โดยใช้แนวทางตามหนังสือ " เจาะจุดแข็ง " ซึ่งแปลโดย " เอธ แย้มประทุม "
เขาสรุปส่วนดีของเรา เราก็ชอบน่ะนะ..แต่เสียทีเขาไม่ได้บอกจุดอ่อนให้

จุดแข็งข้อนึงคือ...เป็นคน " มองโลกในแง่ดี "
คนมองโลกในแง่ดี...มีลักษณะอย่างนี้
คุณเป็นคนที่ชอบยกย่องชมเชยผู้อื่น...ยิ้มง่าย
และมักมองถึงด้านขำขันของสถานการณ์...เสมอ
บางคนก็บอกว่า...คุณเป็นคนร่าเริง
ส่วนบางคนก็อิจฉา...อยากมองโลกได้ด้วยทัศนคติที่ดีอย่างที่คุณทำบ้าง
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม...ผู้คนก็อยากอยู่กับคุณ
เพราะโลกของพวกเขา...จะสดใสขึ้นได้
จากการที่คุณแผ่ขยายทัศนคติที่ดี...ไปสู่พวกเขา
ผู้ที่ไม่มีพลังงาน...และทัศนคติที่ดีเช่นคุณ
ก็อาจลงเอยด้วยความรู้สึกว่า...โลกนี้หดหู่จำเจ
หรือที่ร้ายไปกว่านั้นก้เป็นโลกที่...กดดันมาก
คุณมีวิธีการที่จะทำให้ผู้อื่น...ร่าเริงขึ้นได้
คุณแต่งเติมความสนุกตื่นเต้น...เข้าไปในงานแต่ละงาน
คุณฉลองชื่นชมความสำเร็จ...ทุกครั้ง
คุณมีวิธีการร้อยแปดพันเก้า...ประการ
ที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างน่าตื่นเต้น...และมีชีวิตชีวามากยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก
คนมองโลกในแง่ร้ายอาจไท่ยอมรับ...พลังกระตือรือล้นของคุณ
แต่ถึงกระนั้นคุณก็แทบจะไม่เคยปล่อย...ความรู้สึกไม่ดี
มาทำให้คุณเศร้าหมอง...แต่อย่างใด
เพราะทัศนคติการมองโลกในแง่ดีที่คุณมี...จะไม่ปล่อยให้คุณรู้สึกเช่นนั้นนั่นเอง
คุณเชื่อแน่วแน่ว่าการมีชีวิตอยู่นั้น...เป็นสิ่งที่ดีและงานก็เป็นเรื่องสนุก
และไม่ว่าจะเผชิญอุปสรรคอย่างไรก็ตาม...คนเราก็ควรอารมณ์ดีเสมอ

อ่านแล้วดูดีจังเลยนะ...แต่แหม! ใครจะสมบูรณ์แบบขนาดนั้น
บางครั้งก็มองโลกในแง่ร้ายบ้าง...เหมือนกัน
แต่พยายามเตือนสติตัวเอง...ให้มองแง่ดีเข้าไว้
เพราะถ้ามองโลกในแง่ดี...คนที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็คือ
ตัวข้าพเจ้าเองนี่แหละ

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

หันหน้ามา...เข้าใจกัน

ในภาวะที่เกิดความไม่เข้าใจกัน...ไม่ว่าจะเป็นที่ใด ๆ
ในบ้าน...ในที่ทำงาน...ในสังคม...ในทุก ๆ ที่
ถ้าหันหน้ามาเข้าใจกัน...เหมือนในเนื้อเพลง " ใจประสานใจ "
ของ " ดิอิมพอสซิเบิ้ล " โลกคงจะมีแต่สันติสุขนะ


มองแววตาทุกคนเปี่ยมสุขล้นระคนสุขสันต์
ยิ้มแย้มเข้าใจกันตาสบประสานไมตรีฉายมา
ดวงฤทัยทุกดวงถ่วงด้วยรักและแรงศรัทธา ปรารถนาในสิ่งเดียวกัน
ความคลางแคลงหายไปโลกสดใสคืนมาอีกครา
ฟ้าหลังฝนงามตาความมืดโรยรามลายหายพลัน
มีแต่ความเข้าใจอุ่นไอรักไมตรีต่อกัน ผ่านมานั้นลืมมันลบไป
ร้องเถิดร้องเพลงกัน ประสานรอยรักในใจ ลบรอยร้าวภายในอุรา
ร้องเถิดร้องเพลงกันจับมือกันไว้ดีกว่า หันหน้ามาเ ข้าใจกัน
อันคนเราทุกคนต่างเกิดมาควรพาพึ่งกัน มีไมตรีสัมพันธ์โลกนั้นสดใส
จงมารวมพลังร่วมสร้างสรรจรรโลงฤทัย จับมือกันเดินก้าวไปมุ่งสู่จุดหมายอนาคตเรา
มองแววตาทุกคนเปี่ยมสุขล้นระคนสุขสันต์
ยิ้มแย้มเข้าใจกันตาสบประสานไมตรีฉายมา
ดวงฤทัยทุกดวงถ่วงด้วยรักและแรงศรัทธา ปรารถนาในสิ่งเดียวกัน
ความคลางแคลงหายไปโลกสดใสคืนมาอีกครา
ฟ้าหลังฝนงามตาความมืดโรยรามลายหายพลัน
มีแต่ความเข้าใจอุ่นไอรักไมตรีต่อกัน ผ่านมานั้นลืมมัน ลบไป...


วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

อะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในโลกนี้

ถามว่า "อะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในโลกนี้ ในความรู้สึกของเรา"
ให้ตอบได้ 5 คำตอบ บางคนอาจบอกว่า รถยนต์ บ้าน ที่ดิน แหวนเพชร เงินทอง ตำแหน่งหน้าที่
แต่ลองนึกใหม่อีกที " อะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในโลกนี้ "
จริง ๆ แล้ว สิ่งที่มีค่าที่สุดในโลกนี้คือตัวเราเองนี่แหละ
ลองนึกถึงความดีงามของตัวเรา
ฉันเป็นคนอารมณ์ดีใจเย็น
ฉันเป็นคนน่ารัก
ฉันเป็นคนมีความสามารถ
ฉันเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเอง
ฉันเป็นคนตรงต่อเวลา
ฉันเป็นคนมีมารยาท
ฉันเป็นคนเรียนเก่ง
ฉันเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี
ฉันเป็นคนเล่นกีฬาเก่ง
ฉันเป็นคนกล้าหาญเข้มแข็ง
ฉันเป็นคนอ่อนโยน
ฉันเป็นคนแข็งแรง
ฉันเป็นคนใจดี
ฉันเป็นคนรูปร่างดี
ฉันเป็นคนพูดเพราะ
ฉันทำกับข้าวอร่อย
ฉันเป็นคนตั้งใจเรียน
ฉันเป็นคนขยัน
ฉันมีความรักเพื่อนมนุษย์
ฉันเป็นคนยอดเยี่ยม
ฉันมีความเมตตาต่อคนอื่น
ฉันมีจิตใจดี
อื่น ๆ อีกมากมาย
เรามีความดีในตัวเองทุกคน
อาจจะ หนึ่งข้อ สองข้อ สามข้อ หรือหลายข้อ
แต่ไม่ว่าจะมีความดีกี่ข้อก็ตาม
ขอให้เรารู้จักที่จะชื่นชมในความดีของตัวเอง
และพูดสิ่งดี ๆ กับตัวเองเสมอ
แล้วชีวิตของเราจะมีแต่สิ่งดี ๆ
และอยู่ในโลกนี้อย่างมีความสุข

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

อยากตกแต่งบล็อกให้ดูดี

เขียนบล็อกมีแต่ตัวหนังสื๊อ...หนังสือ
อยากตกแต่งบล็อกให้ดูดี
มีคลาสเหมือนของคนอื่น

ให้มีภาพ ให้มีลูกเล่นบ้าง
จะได้ไม่ดูระเบียบเรียบร้อยเกินไป
แต่ยังทำไม่เป็นเลย
กำลังหาหนังสืออ่าน
แล้วที่สำคัญตัวข้าพเจ้า
ก็ไม่มีหัวศิลป์เลย
ใครช่วยข้าพเจ้าที

ให้กำลังใจตนเองบ้างหรือยัง

คนบางคนมักให้กำลังใจคนอื่น
แต่ลืมให้กำลังใจตนเอง
เขาคิดแต่เรื่องซ้ำเติมตัวเองในเรื่องร้าย ๆ
โดยเขาไม่เคยคิดว่าเขามีสิ่งดี ๆ ในตัวตนของเขา
วันนี้อากาศปลอดโปร่ง แจ่มใส
เราลองมานั่งสบาย ๆ นึกถึงความดีของตัวเองสักพัก
จดบันทึกดูซิ มีความดีมากมายเลยใช่ไหม
ไม่อยากให้ใครรู้ เก็บไว้ดูเองก็ได้
เป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง
อ่านพบในหนังสือมนุษย์สัมพันธ์
คนมี 4 ประเภท
ฉันดี เขาไม่ดี
ฉันไม่ดี เขาดี
ฉันไม่ดี เขาไม่ดี
ฉันดี เขาดี
คนประเภทสุดท้ายนี่แหละ
ที่จะอยู่บนโลกใบนี้
อย่างมีความสุข

วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

ฉันจะไม่ยอมแพ้

ฉันมีความฝัน และฉันต้องทำให้ได้ จะขอเป็นดาวที่ยิ่งใหญ่ จะเปล่งประกายงดงาม
ฉันจะไม่ท้อ เพราะฉันคือคนร้องเพลง จะร้องไปตามที่ใจบรรเลง ให้เพลงได้กู่ก้องไป
ดาวจะเต็มฟ้า แต่ฟ้าก็ยังกว้างใหญ่ เห็นยังมีที่ว่างมากมาย ให้พอมีดาวอีกดวง
* และฉันจะไม่ยอมแพ้ จะหนักหนาเพียงใดก็จะรับมัน จะให้ถอยยังไง ในเมื่อใจมันฝัน ก็ทำไปตามหัวใจ
** เพื่อดาวดวงนั้น ที่ฝันที่อยากเป็น เพื่อดาวดวงนั้น และฝันคงไม่ไกล
เพื่อดาวดวงนั้น ต้องสู้จนสุดใจ จะเป็นดาวดวงหนึ่ง บนฟากฟ้า
เพื่อดาวดวงนั้น แม้ฉันต้องฝ่าฟัน เพื่อดาวดวงนั้น ฉันจะทำให้เหนือกว่า
เพื่อดาวดวงนั้น ฉันพร้อมจะไขว่คว้า และจะทำให้โลกได้รับรู้ว่า ฉันจะเป็นดาว
แม้ต่างความคิด ชีวิตก็ไม่เหมือนกัน แต่เหมือนกันตรงที่ความมุ่งมั่น ไม่มีวันจะเลิกรา
ต้องเหนื่อยแค่ไหน จะยิ้มจะมีน้ำตา เมื่อทุ่มเทไปแล้วคุ้มค่า จะอยู่เป็นคนสุดท้าย
( * / ** ) (บรรเลง) ( ** )

และจะทำให้โลกได้รับรู้...ฉันจะเป็นดาว
จากเพลงเพื่อดาวดวงนั้น ของ The Star
ฉันจะไม่ยอมแพ้ จะฝ่าฟันให้ถึงจุดหมายของชีวิต

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

ฝันไปเถอะ ไม่ผิดกฏหมาย

To dream the impossible dream To fight the unbeatable foe
To bear with unbearable sorrow To run where the brave dare not go
To right the unrightable wrong To love pure and chaste from afar
To try when your arms are too weary To reach the unreachable star
This is my quest To follow that star
No matter how hopeless No matter how far
To fight for the right Without question of pause
To be willing to march Into hell for a heavenly cause
And I know if I'll only be true To this glorious quest
That my heart will be peaceful and calm When I'm laid to my rest
And the world will be better for this That one man scorned and covered with scars
Still strove with his last ounce of courage To reach the unreachable star!
ฝันไปเถอะ ไม่ผิดกฏหมาย
ฝันไปเถอะ ไม่เสียเงิน
ฝันไปเถอะ ทุกคนมีสิทธิ์ฝัน
ฝันไปเถอะ ไม่มีไกล ไม่มีสิ้นหวัง

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ชอบสีบล็อกนี้

อยากถามว่าสีบล็อกนี้สวยไหม
สวยอยู่แล้ว
จะไม่สวยได้ยังไงล่ะ
ก็เป็นสีฟ้าที่ตรงกับวันเกิดคือวันศุกร์ไง

ฉันอยากให้โลกเป็นหนึ่งเดียว

ไป ๆ มา ๆ บล็อกนี้จะกลายเป็นรวมเพลงให้กำลังใจไปแล้ว ก็ชอบน่ะนะ
คนแต่งก็เก่งมาก ๆ เลย แต่งเพลงได้มีความหมายทุกเพลง
อยากทำได้อย่างเขา แต่ทำไม่เป็นน่ะดีแล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าเก่งคนเดียว
ต้องอยู่คนเดียวในโลก ทำทุกอาชีพเลย ลำบากแน่ ๆ แบ่งงานกันทำดีกว่านะ
เพลงที่ชื่นชอบอีกเพลงไม่ใช่เพลงให้กำลังใจหรอก แต่เนื้อร้องทำนองเพราะดี
เป็นเพลงที่เกี่ยวกับสันติภาพ
เพลง I'd Like To Teach the World To Sing (In Perfect Harmony)
ของ The New Seekers
I'd like to build the world a home And furnish it with love

Grow apple trees and honey bees and snow-white turtle doves
I'd like to teach the world to sing In perfect harmony
I'd like to hold it in my arms and keep it company
I'd like to see the world for once All standing hand in hand
And hear them echo through the hills
For peace throughout the land (That's the song I hear)
I'd like to teach the world to sing (that the world sings today)
In perfect harmony
I'd like to teach the world to sing In perfect harmony
La da da da..........do do.....ahh...la la....
(Repeat from the beginning)
ฉันอยากให้โลกเป็นหนึ่งเดียว
อยู่กันด้วยความรักสมัครสมาน
และสันติภาพ
แผ่นดินนี้จะเป็นเช่นวิมาน

วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2550

เก็บตะวัน

ตะวัน (sun) หมายถึง พระอาทิตย์ซึ่งสาดแสงส่องให้พลังแก่เราทุกวี่ทุกวันอย่างมีพันธสัญญา ไม่เคยบิดพลิ้ว ไม่เคยเหน็ดเหนื่อย ชีวิตของคนเราทีประสบความทุกข์ยากในบางครั้ง อาจจะรู้สึกทุกข์ใจแสนสาหัสเหมือนท้องฟ้าที่มีแต่ความมืดครึ้ม หมองมัว ไม่สดใส แต่เชื่อเถอะฟ้าจะครึ้มไม่นาน เดี๋ยวพระอาทิตย์ก็จะสาดแสง ช่วยเพิ่มความร่าเริงสนุกสนาน ความเบิกบานผ่องใส ไม่เหงาหงอยให้กับเราอีก
จากความหมายในเพลง เก็บตะวัน ของ อิทธิ พลางกูร
เก็บตะวัน ที่เคยส่องฟ้า เก็บเอามา ใส่ไว้ในใจ
เก็บพลัง เก็บแรงแห่งแสง ยิ่งใหญ่ รวมกันไว้ให้เป็น 1 เดียว
เก็บเอากาลเวลาผ่านเลย สิ่งที่เคยผิดหวัง ช่างมัน
1 ตัวตน 1 คนชีวิต แสนสั้น เจ็บแค่นั้น ก็คงไม่ตาย
ธรรมดาเวลาฟ้าครึ้ม เมฆหม่น พายุฝน อยู่บนฟากฟ้า
คงไม่นานตะวัน สาดแสงแรงกล้า ส่งให้ฟ้า งดงาม
หากตะวัน ยังเคียงคู่ฟ้า จะมัวมา สิ้นหวังทำไม
เมื่อยังมีพรุ่งนี้ ให้เดินเริ่มใหม่ มั่นคงไว้ ดังเช่นตะวัน
ธรรมดาเวลาฟ้าครึ้ม เมฆหม่น พายุฝน อยู่บนฟากฟ้า
คงไม่นานตะวัน สาดแสงแรงกล้า ส่งให้ฟ้า งดงาม
หากตะวัน ยังเคียงคู่ฟ้า จะมัวมา สิ้นหวังทำไม
เมื่อยังมีพรุ่งนี้ ให้เดินเริ่มใหม่ มั่นคงไว้ ดังเช่นตะวัน
มั่นคงไว้ ดังเช่นตะวัน

วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ฉันจะเป็นสะพานให้คุณข้าม

แปลอย่างนี้หรือเปล่านะ ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรง
เพลง Bridge over Troubled Water เพลงของ Simon and Garfunkel
When you're weary, feeling small.When tears are in your eyes,
I will dry them all.I'm on your side. When times get rough.
And friends just can't be found.
Like a bridge over troubled water. I will lay me down.
Like a bridge over troubled water. I will lay me down.
When you're down and out,When you're on the street,
When evening falls so hard. I will comfort you.
I'll take your part.When darkness comes.
And pains is all around,
Like a bridge over troubled water. I will lay me down.
Like a bridge over troubled waterI will lay me down.
Sail on silvergirl,Sail on by.Your time has come to shine.
All your dreams are on their way.
See how they shine.If you need a friend.I'm sailing right behind.
Like a bridge over troubled water. I will ease your mind.
Like a bridge over troubled water. I will ease your mind
เพลงนี้แสดงถึงความเป็นเพื่อนที่ดีมาก ๆ เลย
เธอลำบากอย่างไร ฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอ
ใครแปลเก่ง ๆ ช่วยแปลหน่อยซี
ถ้าใครสนใจเพลงเพราะ ๆ คลิกไปดูได้ที่http://www.siamzone.com/

วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2550

วันคล้ายวันเกิด

วันนี้ (22 ตุลาคม) เวลานี้ (ประมาณตี 5)
เป็นวันและเวลาคล้ายวันเกิดของเรา
ตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวใส่บาตร พระมาเวลา 6 โมงเช้า
วันเกิดของเราคือวันเจ็บของแม่
แม่ต้องลำบากอุ้มท้องเรามาตั้ง 9 เดือน
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราต้องทำคือ ต้องทำทุกอย่างเพื่อแม่อย่างดีที่สุด
เปิดบล็อกใหม่เพื่อเขียนเรื่องให้กำลังใจตนเองและให้กำลังใจผู้อื่นโดยเฉพาะ
ท่านใดสนใจ แสดงความคิดเห็นได้เลย
เดี๋ยวไปตลาดก่อน เตรียมของใส่บาตร หาไว้บ้างแล้วแต่ยังไม่ครบ