วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สุขสันต์วันปีใหม่ 2552

ให้บรรดาปวงท่านสุขสันต์

ทุกวันทุกคืนชื่นชมให้สมฤทัย

ให้รุ่งเรืองในวันปีใหม่

ผองชาวไทยจงสวัสดี

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สุขสันต์วันคริสต์มาส



........................ขอขอบพระคุณ Zwani.com เป็นอย่างยิ่ง....................
..............................ที่มีภาพสวย ๆ ให้เราทุกเทศกาล.........................

วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สุขสันต์วันลอยกระทง


...................อากาศเย็นประมาณ 25 องศาเซลเซียส เวลา 3 ทุ่ม...............

วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2551

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551

การให้กำลังใจผู้อื่น

มีบทความที่อ่านแล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์
ในการให้กำลังใจผู้อื่น
ทั้งที่บ้านที่ทำงานและในสังคมทั่วไป

คลิกเข้าไปอ่านดีกว่านะ
ที่เว็บ http://gotoknow.org/blog/nurqakm/58608
เว็บ http://www.narisa.com/forums/index.php?showtopic=4629
และ เว็บhttp://www.foralljob.com/job/jobknowdetail.php?id=43

ขอขอบคุณผู้ขียนและเว็บดังกล่าวข้างต้นเป็นอย่างยิ่ง

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

อยากให้คนทั้งโลกนี้มีความสุข

อยากให้คนทั้งโลกนี้มีความสุข
ไม่มีทุกข์ไม่มีโศกโลกไม่เศร้า
หันหน้าเข้าหากันเพื่อบรรเทา
ไม่ถือเขาไม่ถือเราไม่ถือตัว

จบดื้อ ๆ อย่างนี้แหละ
แหม! อยากให้มีคนมาแต่งต่อจริง ๆ

วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เพลงใครหนอ

เนื้อเพลง ใครหนอ >>
ขับร้องโดย Spicy Kids

น่ารักน่าฟังมาก ๆ

ใครหนอรักเราเท่าชีวี ใครหนอปรานีไม่มีเสื่อมคลาย
ใครหนอรักเราใช่เพียงรูปกาย รักเขาไม่หน่ายไม่คิดทำลายใครหนอ
ใครหนอรักเราเท่าทรวงใน ใครหนอเอาใจปลอบเราเรื่อยมา
ใครหนอรักเราดังดวงแก้วตา รักเขากว้างกว่าพื้นพสุธานภากาศ
จะเอาโลกมาทำปากกา แล้วเอานภามาแทนกระดาษ
เอาน้ำหมดมหาสมุทรแทนหมึกวาด ประกาศพระคุณไม่พอ
ใครหนอรักเราเท่าชีวัน ใครหนอใครกันให้เราขี่คอ
ใครหนอชักชวนดูหนังสี่จอ รู้แล้วละก็อย่ามัวรั้งรอทดแทนบุญคุณ
จะเอาโลกมาทำปากกา แล้วเอานภามาแทนกระดาษ
เอาน้ำหมดมหาสมุทรแทนหมึกวาด ประกาศพระคุณไม่พอ
ใครหนอรักเราเท่าชีวัน ใครหนอใครกันให้เราขี่คอ
ใครหนอชักชวนดูหนังสี่จอ รู้แล้วละก็อย่ามัวรั้งรอทดแทนบุญคุณ

และฟังเพลงที่ http://radio.sanook.com/radio/player7/?songID=17564&clk=2008081222
(แบบนี้ง่ายดีนะ เปิดปุ๊บได้ยินเพลงปั๊บเลย)
ขอขอบคุณผู้ประพันธ์เนื้อเพลงผู้ขับร้องและเว็บดังกล่าวข้างต้นเป็นอย่างยิ่ง

วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

คำพิพากษา...จาก "เข็มทิศชีวิต"

เมื่อวานได้อ่านหนังสือ " เข็มทิศชีวิต" ของ "คุณฐิตินาถ ณ พัทลุง"
รู้สกดีทุกเรื่อง อยากขออนุญาตคัดบางส่วนของเรื่องนี้มาให้อ่าน

........................คำพิพากษา.........................
เราตัดสินคนอื่นตลอดเวลา ลองนึกทบทวนดูเวลาที่มีใครมีความเห็น
ตีค่าความคิด วัดจิตสำนึกของเรา เราจะไม่ชอบเลย
ที่เขาเอากรอบความคิดของเขา เอาประสบการณ์ส่วนตัวของเขา
มาเป็นบรรทัดฐานในการตีค่า ว่าเราเป็นอย่างไร
แล้วพูดบอกเหมือนติดป้ายให้เราตามความคิดของเขา
เราก็ไม่ชอบ
คนอื่นก็เหมือนกัน
ไม่มีใครอยากถูกตัดสินตีค่าตลอดเวลา
เราไม่มีทางรู้จักใครจนสามารถประเมินคุณค่าของใครได้อย่างแท้จริง
เพราะเราไม่ได้นั่งอยู่ในใจของเขา
คนแต่ละคนมีเหตุผลในการทำ พูด คิดของตัวเอง
ตามประสบการณ์ ตามแรงผลักในใจและสถานการณ์ที่เขาเผชิญ
.......................................................................................
เมื่อเราเข้าใจเห็นธรรมชาติที่ร้ายกาจ น่าเกลียดของตัวเอง
เราก็จะเข้าใจเวลาที่คนอื่นเป็นเหมือนเรา
ถ้าความรู้สึกนึกคิด และคำพูดของเราไม่ได้มีน้ำหนัก
ไม่ได้เป็นแก่นสารที่คงทน
เป็นสิ่งหนึ่งที่ผุดขึ้นแล้วก็หายไป
คำพูด คำวิจารณ์ของคนอื่น
ที่สักแต่เป็นคลื่นเสียงลอยอยู่ในอากาศเพียงครู่เดียวก็หายไป
ก็ไม่น่าจะทำร้าย ไม่เป็นก้อนหินหนักให้ใจเราแบกเหมือนกัน
...................................................................................

วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ใครดีก็ดีตอบ

ใครดีก็ดีตอบ
ใครชอบก็ตอบแทน
ใครร้ายก็ร้ายแสน
ให้เหมือนแม้นที่ทำมา

ใครเคยได้ยินบ้าง
แล้วใครเป็นอย่างนี้บ้าง
เดิมข้าพเจ้าก็เป็นคนแบบนี้แหละ
แต่ปัจจุบันทำใจได้ระดับหนึ่งแล้ว
เราพยายามเปลี่ยนตัวเราใหม่
ให้เป็นอย่างนี้

ใครดีก็ดีตอบ
ใครชอบก็ตอบแทน
ใครร้ายไม่ร้ายแสน
ดีตอบแทนที่ทำมา

พยายาม...นะ...พยายาม
ยังไม่เป็นอย่างนี้เต็มรูปแบบสักเท่าไรหรอก
เพื่อใครล่ะ
ก็เพื่อสุขภาพกายสุขภาพใจ
ของข้าพเจ้าเองนี่แหละ

เคยสังเกตไหมว่าเวลาเราคิดร้ายกับใคร
คนที่ร้อนอกร้อนใจที่สุดคือใคร
เรา...หรือ...เขาคนที่ร้ายกับเรา
ส่วนใหญ่จะเป็นตัวเราเองนี่แหละ
และเราจะเห็นว่าคนที่ถูกเราคิดร้ายตอบ
หรือกระทำร้ายด้วยวาจาและการกระทำ
บางคนก็อยู่ดีมีสุขไม่สะดุ้งสะเทือนอะไร
ยิ่งทำให้เราเครียดหนักขึ้นไปอีก

แล้วเราจะไปโต้ตอบหรือคิดร้ายตอบเพื่ออะไร
เสียเวลาเปล่า ๆ
เอาเวลามาทำอะไรดี ๆ ดีกว่า

วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2551

ดีใจ

ที่เห็นคนอื่นหมดทุกข์

ที่เห็นคนอื่นมีความสุข

วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2551

วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2551

คิดดี...ชีวิตดี

มีผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตท่านบอกว่า
ถ้าความคิดเปลี่ยนชีวิตจะเปลี่ยน
ถ้าคิดบวกคิดดีชีวิตเราก็จะเป็นไปในทางที่ดี
ถ้าคิดลบคิดไม่ดีชีวิตเราก็จะเป็นไปอย่างที่เราคิด
เพราะความคิดที่ย้ำคิดอยู่เสมอจะอยู่ในจิตใต้สำนึก
ทำให้เราฝังใจว่าเราจะต้องเป็นอย่างที่เราคิด
..............................
แล้วเราอยากมีชีวิตอย่างไรล่ะ
ถามเอง..ตอบเองได้...อยู่แล้ว

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

เธอผู้เป็นชีวิตจิตใจของฉัน

zwani.com myspace graphic comments

สวัสดีวันแห่งความรัก
ขอมอบเพลงเก่าเพราะ ๆ ความหมายดี ๆ สำหรับผู้ที่แวะมาเยี่ยมเยียน

You mean ev”rything to me
ร้องโดย Neil Sedaka

You are the answer to my lonely prayer
You are an angle from above
I was so lonely till you came to me
With the wonder of your love
I don”t know how I ever lived before
You are my life ,my destiny
Oh my darling I love you so
You mean everything to me
If you should ever,ever go away
There would be lonely tears to cry
The sun above would never shine again
There would be teardrops in the sky
*So hold me close and never let me go
And say our love will always be
Oh my darling. I love you so
You mean everything to me

ฉันรู้สึกว่า ความอ้างว้าง...ว้าเหว่...ที่ครอบคลุมจิตใจฉันมาเป็นเวลานาน
ได้สลายไปจนหมดสิ้นแล้วนับตั้งแต่ฉันได้พบเธอ
เธอซึ่งเปรียบเสมือนผู้ที่สวรรค์บันดาลให้จุติมาสำหรับฉันคนเดียวเท่านั้น
ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเคยมีชีวิตได้อย่างไรโดยปราศจากเธอ
เธอเป็นทั้งชีวิตและจิตใจของฉัน เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันปรารถนา

โดย "คุณชลธิชา ดารากร"

วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

คนหัวใจเข้มแข็ง

ระยะนี้ได้พบปะพูดคุยกับคนหลายคน ทั้งคนที่หัวใจอ่อนแอและคนที่มีหัวใจเข้มแข็งซึ่งในชีวิตประสบทุกข์มากมายแต่สามารถเผชิญเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตได้ด้วยการมีสติปัญญา แล้วเวลาจะทำให้เหตุการณ์ร้าย ๆ นี้ผ่านไปเอง คนที่ผ่านจุดนี้ได้ถือว่าเป็นผู้อดทนมีหัวใจเข้มแข็ง ส่วนคนอ่อนแอก็จะตรงกันข้าม เกิดเหตุการณ์อะไรก็รู้สึกว่าทนไม่ได้รู้สึกว่าตนเองเป็นคนไม่มีค่าเสมอ ซึ่งวันนี้เรามาดูกันว่าคนที่มีหัวใจเข้มแข็งจะมีลักษณะใดบ้าง

1. ไม่รู้จักบ่นหรือร้องทุกข์ คนหัวใจเข้มแข็งจะมีลักษณะทรหดอดทน อดทนต่อการทำงานที่ยากลำบาก อดทนต่อวิถีชีวิตที่ยุ่งยาก ความอดทนเป็นก้าวแรกของคนที่มีหัวใจเข้มแข็ง

2. ไม่ต้องการทราบว่า คนอื่นจะคิดเห็นว่าตัวเป็นอย่างไร คนหัวใจเข้มแข็งจะไม่แคร์ต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ ไม่แคร์ต่อความรู้สึกของผู้อื่น ไม่เป็นคนหูเบาสิ่งใดที่เขาเห็นว่าถูกต้องคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีแล้ว เขาจะกล้าลงมือทำและฟันฝ่าอุปสรรค ทำไปจนสำเร็จ

3. ไม่บอกความลับของตนให้แก่ใคร และไม่ต้องการรู้ความลับของคนอื่น เป็นสิ่งแปลกอยู่อย่างถ้าใครรู้ความลับของใครแล้วมักเก็บงำไว้ได้ยาก อยากจะเล่าให้คนอื่นฟัง ฉะนั้น การจะฝึกตนให้เป็นคนมีหัวใจเข้มแข็งจะต้องฝึกหัดเก็บความลับให้ได้ นอกจากนี้ จะต้องไม่สอดส่ายสายตาอยากรู้ความลับของคนอื่น สนใจแต่จะปรับปรุงตนเอง คนหัวใจเข้มแข็งจะไม่เป็นคนนินทาคนอื่นลับหลัง

4. ไม่คิดว่า ตัวเองเป็นคนเคราะห์ร้าย คนหัวใจเข้มแข็งจะสามารถนำเอาเหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ มาทำประโยชน์ให้แก่ตนเองทั้งสิ้น จะต้องเป็นคนมองโลกในแง่ดี ถ้าทำสิ่งใดผิดพลาดลงไป ก็ไม่มัวเสียใจ แต่จะถือว่าข้อผิดพลาดทุกครั้งเป็นบทเรียนที่จะไม่ทำผิดต่อไป กล่าวกันว่า เคราะห์ร้ายก็เหมือนคนร้าย คือ ถ้ามันรู้ว่าเราไม่ยอมแพ้ มันก็ไม่กล้าทำร้ายเรา แต่ถ้าใครยิ่งอ่อนแอ มันจะยิ่งซ้ำเติม

5. มีสติสัมปชัญญะอยู่ตลอดเวลา คนหัวใจเข้มแข็งเป็นคนที่ทำอะไรไม่เหม่อลอยหรือประมาทเผลอไผล จะทำด้วยความหนักแน่นอย่างมีจุดหมาย ไม่หลุกหลิก คนที่มีสติในการกระทำทุกอย่างตลอดเวลา เรียกได้ว่า เป็นคนที่มีหัวใจเข้มแข็ง

ที่มา หนังสือ การพัฒนาตนเอง สมิต อาชวนิจกุล เขียน

วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2551

ทุกวันคือวันดี

ขณะนี้เวลา 01.51 นาฬิกา
ที่จริงนอนไปแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง
แต่พอดีมีที่บ้านมีคนป่วยขึ้นมากระทันหันกลางดึก
เลยลุกขึ้นมานั่งเฝ้าคนป่วย (คุณหมอจำเป็น)ให้ทานยา
เห็นอาการดีแล้ว ไม่ต้องไปโรงพยาบาล เลยมานั่งอ่านหนังสือ
เจอเรื่องดี ๆ อีกเรื่องที่อ่านแล้วชอบมาก
เป็นเรื่องที่บอกให้ทุกคนมีความหวังกับทุกวันที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ทุกวันเป็นวันดี ไม่มีวันใดที่ไม่มีค่า
ลองอ่านดูจากบางตอนของ "ทุกวันคือวันดี "
ในหนังสือ " มุมไม่มีเหลี่ยม " ของ " คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ "

...........ทุกวันคือวันดี..........

พระอาจารย์อันมอน กล่าวว่า " ฉันจะไม่ถามถึงเรื่องของวันที่ผ่านมานั้น
แต่ฉันอยากรู้เพียงว่าพวกเธอคิดว่าวันนั้น ๆ เป็นอย่างไร ไหนลองว่ามาซิ "
เมื่อไม่มีพระลูกศิษย์ศึกษาเซนตอบ ท่านอาจารย์เฉลยว่า
" ทุกวันคือวันดี "
ซึ่งเป็นคำพูดง่าย ๆ แต่น้อยคนที่จะเข้าใจความหมายอย่างถ่องแท้
วันดีในที่นี้ มิได้หมายมุ่งจะเปรียบเทียบกับวันไม่ดี
หากหมายถึง วันอันอุดมไม่สามารถจะเปรียบได้กับอะไร
เพราะวันหนึ่ง ๆ นั้น เป็นวันเดียวในตัวของมันเอง
วันนี้ไม่มีวันซ้ำอีกแน่นอน
ทุกวันจึงเป็นวันอันสดใส วันอันประเสริฐสุด
เหมือนกับชีวิตของคนที่ใหม่อยู่ทุกวันกับวันใหม่
ความดีหรืออมตภาพของวันนั้น มิได้มีเพราะใครหรือสิ่งใดเป็นผู้ทำขึ้น
หากวันนั้น ๆ เป้นวันดีมาแต่เดิม เป็นอุดมวารหรือเป็นกาลอันประเสริฐ
.....
อดีตเป็นเพียงการอ้างถึง อนาคตก็เป็นเพียงความหวัง
วันนี้เท่านั้น คือ ความจริง
วันนี้จึงเป็นวันดี เพราะเป็นวันเดียวที่มีอยู่
ทรรศนะของเซนเป็นอย่างนี้
ดังนั้นทุกเวลาจึงมีค่า ไม่ควรปล่อยไปให้เสียเปล่า
ผู้เบื่อหน่าย ท้อแท้หมดหวังต่อการต่อสู้กู้ชีวิตให้ดีกว่าเดิม
มองไม่เห็นชัยชนะอันรุ่งโรจน์ที่รออยู่ตรงกันข้าม
จึงมักมองไม่เห็นคุณค่าของเวลา
ปล่อยให้ศัตรูฉกฉวยเอาวันดี ๆ ไปหมด
.....
ในทางธรรมนั้นถือว่า การทำงานเป็นการปฏิบัติธรรมเช่นกัน
เพราะในการงานมีความคิด มีการฝึกฝนปรับปรุง
และสร้างสรรค์สรรพสิ่งขึ้นมา
วันเวลาของผู้เป็นอยู่ด้วยธรรม
จึงมีค่านักเสมอด้วยอนรรฆมณีน้ำหนึ่งทีเดียว
เพราะเขาใช้ธัมมะไปกำหนดการงาน
แล้วใช้การงานเป็นการปฏิบัติธรรมในขณะเดียวกันนั้น
อย่างเช่นงานกวาดบ้าน ก็คือการกวาดสิ่งสกปรกออกไปจากใจพร้อมกันไปด้วย
มีทั้งสติสัมปชัญญะ คือ การกำหนดจิต ระลึกรู้อยู่ทุกขณะ
มีทั้งขันติ คือความอดทน มีทั้งวิริยะ คือความเพียร
พร้อมสรรพอยู่ในงานกวาดบ้านถูบ้านนั่นเอง
ธรรมสโมทานมาในการงานนี้ นอกจากจะเป็นคุณแล้ว
ก็ยังป้องกันอกุศลมูลมิให้เกิดขึ้นในขณะนั้นอีกด้วย
จึงว่างานกวาดบ้าน ก็คือ การกวาดกิเลสออกไปอย่างหนึ่ง
คนรู้ค่าของงานค่าของเวลา จะไม่มีความท้อแท้ เบื่อหน่ายเลย
เพราะเขารู้ว่าทุกวันเป็นวันดี



วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2551

ชีวิตคน...ต้องมานะพยายาม

อ่านหนังสือเรื่อง " ชีวิตคน " ในหนังสือ " ชีวิตงาม"
แล้วรู้สึกอยากให้คนอื่นได้อ่านบ้าง...ไม่อยากเก็บไว้คนเดียว
เพราะรู้สึกว่า...ให้กำลังใจดีจริง ๆ
ต้องขออนุญาตท่านผู้ประพันธ์ ไว้ ณ โอกาสนี้
หม่อมหลวงจิตติ นพวงศ์ และ คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

..........ชีวิตคน..........
เราไม่สามารถเดินทางไป โดยปราศจากความลำบาก
ความอดทน เข้มแข็ง จะชนะทุกสิ่งได้
ความยากลำบากเป็นสิ่งที่ดีงามของชีวิต
เพราะมันจะบีบคั้นให้มีความมานะพยายาม
ความสำเร็จทั้งหลายต้องต่อสู้จึงจะได้มา
เปรียบได้กับต้นไม้ใบหญ้า
ที่เบียดลำต้นสอดแทรกขึ้นมาจากรอยแตกของหินผา
นั่นเป็นความพยายามเพื่อดำรงชีวิตอยู่ของต้นไม้ใบหญ้า
ว่ามันทรหดอดทนเสียเหลือเกิน
ต้นไม้ใบหญ้านั้นบอบบาง ยิ่งกว่ามนุษย์หลายเท่านัก
แต่มันก็ยังตะเกียกตะกายเอาตัวชีวิตรอดได้
ความพยายามของต้นไม้ใบหญ้า
เป็นความพยายามที่มีอยู่ในธรรมชาติของทุกชีวิตแล้ว
เราจะไม่ลองมานะพยายามอย่างต้นไม้ใบหญ้าหรือ

ชีวิตคนนี้หนอต้องต่อสู้
แม้หดหู่ท้อแท้จะแพ้เขา
จงยิ้มสู้อุปสรรคทั้งหนักเบา
ปลุกใจเรากล้าไว้เถิดจะเกิดคุณ

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2551

รอยยิ้มนักสู้

เพลงให้กำลังใจ

เนื้อเพลง: รอยยิ้มนักสู้
อัลบั้ม: โลโซ แลนด์

หากเหนื่อยนักขอจงหยุดพักเสียก่อน
อย่าใจร้อนรีบไปเดี๋ยวมันไม่เข้าที
หยุดเรื่องรักที่ทรมาน เรื่องงานเรื่องเงินก็ดี
พักซักทีเดี๋ยวค่อยไป อย่าไปคิดเรื่องเดิมให้มันปวดใจ
ซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครเห็นความพ่ายแพ้
เก็บให้ลึกลงข้างในหัวใจที่อ่อนแอ
เหลือเพียงแค่รอยยิ้มของนักสู้
ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ
และฉันก็เจอเรื่องราวร้าย ๆ เข้ามา
แต่ทุก ๆ ทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่า
แข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน
กว่าจะถึงฝั่งฝันนั้นมันยากเย็น
อย่าพึ่งเห็นฉันเดินเข้ามาง่าย ๆ
กว่าจะถึงที่ฉันยืน กล้ำกลืนฝืนทนเกือบตาย
น้ำตาผู้ชายเคยไหลไม่ใช่เรื่องแปลก
ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ
และฉันก็เจอเรื่องราวร้ายๆเข้ามา
แต่ทุก ๆ ทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่า
แข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน
ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ
และฉันก็เจอเรื่องราวร้าย ๆ เข้ามา
แต่ทุก ๆ ที ฉันก็ทำให้เป็นเหมือนดังว่า
แข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน
ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ
และฉันก็เจอเรื่องราวร้าย ๆ เข้ามา
แต่ทุก ๆ ทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่า
แข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน
ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ
และฉันก็เจอเรื่องราวร้าย ๆ เข้ามา
แต่ทุกๆทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่า
แข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน

วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2551

ถวายความอาลัยแด่.....สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ.....


...ข้าพเจ้าขอร่วมถวายความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส
ราชนครินทร์ ขอพระองค์ทรงเสด็จสู่สรวงสวรรคาลัย
และทรงสถิตย์ในใจพสกนิกรชาวไทยตลอดไป...