วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2551

ทุกวันคือวันดี

ขณะนี้เวลา 01.51 นาฬิกา
ที่จริงนอนไปแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง
แต่พอดีมีที่บ้านมีคนป่วยขึ้นมากระทันหันกลางดึก
เลยลุกขึ้นมานั่งเฝ้าคนป่วย (คุณหมอจำเป็น)ให้ทานยา
เห็นอาการดีแล้ว ไม่ต้องไปโรงพยาบาล เลยมานั่งอ่านหนังสือ
เจอเรื่องดี ๆ อีกเรื่องที่อ่านแล้วชอบมาก
เป็นเรื่องที่บอกให้ทุกคนมีความหวังกับทุกวันที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ทุกวันเป็นวันดี ไม่มีวันใดที่ไม่มีค่า
ลองอ่านดูจากบางตอนของ "ทุกวันคือวันดี "
ในหนังสือ " มุมไม่มีเหลี่ยม " ของ " คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ "

...........ทุกวันคือวันดี..........

พระอาจารย์อันมอน กล่าวว่า " ฉันจะไม่ถามถึงเรื่องของวันที่ผ่านมานั้น
แต่ฉันอยากรู้เพียงว่าพวกเธอคิดว่าวันนั้น ๆ เป็นอย่างไร ไหนลองว่ามาซิ "
เมื่อไม่มีพระลูกศิษย์ศึกษาเซนตอบ ท่านอาจารย์เฉลยว่า
" ทุกวันคือวันดี "
ซึ่งเป็นคำพูดง่าย ๆ แต่น้อยคนที่จะเข้าใจความหมายอย่างถ่องแท้
วันดีในที่นี้ มิได้หมายมุ่งจะเปรียบเทียบกับวันไม่ดี
หากหมายถึง วันอันอุดมไม่สามารถจะเปรียบได้กับอะไร
เพราะวันหนึ่ง ๆ นั้น เป็นวันเดียวในตัวของมันเอง
วันนี้ไม่มีวันซ้ำอีกแน่นอน
ทุกวันจึงเป็นวันอันสดใส วันอันประเสริฐสุด
เหมือนกับชีวิตของคนที่ใหม่อยู่ทุกวันกับวันใหม่
ความดีหรืออมตภาพของวันนั้น มิได้มีเพราะใครหรือสิ่งใดเป็นผู้ทำขึ้น
หากวันนั้น ๆ เป้นวันดีมาแต่เดิม เป็นอุดมวารหรือเป็นกาลอันประเสริฐ
.....
อดีตเป็นเพียงการอ้างถึง อนาคตก็เป็นเพียงความหวัง
วันนี้เท่านั้น คือ ความจริง
วันนี้จึงเป็นวันดี เพราะเป็นวันเดียวที่มีอยู่
ทรรศนะของเซนเป็นอย่างนี้
ดังนั้นทุกเวลาจึงมีค่า ไม่ควรปล่อยไปให้เสียเปล่า
ผู้เบื่อหน่าย ท้อแท้หมดหวังต่อการต่อสู้กู้ชีวิตให้ดีกว่าเดิม
มองไม่เห็นชัยชนะอันรุ่งโรจน์ที่รออยู่ตรงกันข้าม
จึงมักมองไม่เห็นคุณค่าของเวลา
ปล่อยให้ศัตรูฉกฉวยเอาวันดี ๆ ไปหมด
.....
ในทางธรรมนั้นถือว่า การทำงานเป็นการปฏิบัติธรรมเช่นกัน
เพราะในการงานมีความคิด มีการฝึกฝนปรับปรุง
และสร้างสรรค์สรรพสิ่งขึ้นมา
วันเวลาของผู้เป็นอยู่ด้วยธรรม
จึงมีค่านักเสมอด้วยอนรรฆมณีน้ำหนึ่งทีเดียว
เพราะเขาใช้ธัมมะไปกำหนดการงาน
แล้วใช้การงานเป็นการปฏิบัติธรรมในขณะเดียวกันนั้น
อย่างเช่นงานกวาดบ้าน ก็คือการกวาดสิ่งสกปรกออกไปจากใจพร้อมกันไปด้วย
มีทั้งสติสัมปชัญญะ คือ การกำหนดจิต ระลึกรู้อยู่ทุกขณะ
มีทั้งขันติ คือความอดทน มีทั้งวิริยะ คือความเพียร
พร้อมสรรพอยู่ในงานกวาดบ้านถูบ้านนั่นเอง
ธรรมสโมทานมาในการงานนี้ นอกจากจะเป็นคุณแล้ว
ก็ยังป้องกันอกุศลมูลมิให้เกิดขึ้นในขณะนั้นอีกด้วย
จึงว่างานกวาดบ้าน ก็คือ การกวาดกิเลสออกไปอย่างหนึ่ง
คนรู้ค่าของงานค่าของเวลา จะไม่มีความท้อแท้ เบื่อหน่ายเลย
เพราะเขารู้ว่าทุกวันเป็นวันดี



1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

วันนี้เป็นวันที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆของข้าพเจ้า